ช่วงนี้ยูนิขออาสาพาสายมู สายเที่ยว ออกเดินทางบินลัดฟ้าไปเที่ยวที่ประเทศฮ่องกงกัน ถึงที่นี่จะเป็นเพียงเกาะเล็กๆ แต่บอกเลยว่ามีสถานที่ให้เราได้เที่ยวหรือ Shopping ได้อย่างครบครัน
อย่างเช่นสวนสนุก Disney Land ยังไงก็ต้องไปสักครั้งหนึ่งในชีวิต หรือจะเป็นวัดชื่อดังที่ใครๆ หลายคนก็ต้องไปมู ไปขอพร วัดนั้นก็คือก็คือ Sha Tin Che Kung Temple หรือเรียกสั้นๆ ว่า “วัดแชกงหมิว” นั่นเอง และร้านอาหาร Street Food เด็ดๆ อย่างเสี่ยวหลงเปา Cheung Hing Kee รสเด็ด ย่าน Tsim Sha Tsui และที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับชาวไทยตอนนี้เลยก็คือ Popmart ร้านจำหน่าย Art Toy นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ซึ่งที่ฮ่องกงก็พอจะมีอยู่หลายสาขาเลยที่ให้เราได้ Shopping กันได้อย่างจุใจ
จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่นานเพียงแค่ 3 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้นเอง แต่ก่อนที่เราจะออกเดินทางมีสิ่งที่เราต้องรู้และเตรียมให้พร้อมเพื่อให้การไปเที่ยวนั้นราบรื่นนั่นก็คือ
สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม (ไม่ควรลืม)
- Passport อันนี้สำคัญมาก
- ตั๋วเครื่องบิน
- Plan การเดินทาง
- บัตรโดยสาร Octopus (สามารถซื้อได้ที่สนามบินฮ่องกง)
- ปากกาสำหรับกรอก Arrival card
- แลกเงิน HK Dollars
- Application เช่น
- Google แปลภาษา
- MTR Mobile (ใช้สำหรับดูเส้นทางการเดินทางด้วยรถไฟ MTR)
- MyObservatory (ใช้สำหรับดูสภาพอากาศล่วงหน้าได้ถึง 9 วัน)
เอาละเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็ออกเดินทางกัน !
Day 1 : เริ่มต้นวันแรกพร้อมออกเดินทาง
ครั้งนี้เราเลือกที่จะพักแถวย่าน Yau Ma Tei ซึ่งเป็นย่านที่เดินทางสะดวก ที่มีทั้ง MTR และ Bus และที่สำคัญคืออยู่ในย่านชุมชนหาร้านอาหารรับประทานได้ง่าย
Credit : ขอบคุณภาพประกอบเนื้อหาจากเพจกลุ่มคนชอบเที่ยวฮ่องกง
7.05 AM : เดินทางถึงที่หมายประเทศฮ่องกง
การเดินทาง : นั่งรถไฟ MTR จากสนามบินไปลงที่สถานี Yau Ma Tei Station เพื่อไปโรงแรม
8.00 – 9.00 AM : ฝากกระเป๋าเดินทางที่โรงแรม : Ease Mong Kong Hotel (MTR Yau Ma Tei Station Exit-B2)
10.00 – 11.00 AM : รับประทานอาหารเช้าร้านดังที่ ร้าน Dim Sum Here
การเดินทาง : MTR Yau Ma Tei
12.00 – 13.00 PM : เดินทางสู่วัดกังหันหรือวัดแชกงหมิว เพื่อไหว้ท่านปู่แชกง
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน MTR สาย Ma On Shan ลงที่สถานี Che Kung Temple หรือ สถานี Tai Wai ทางออก Che Kung Temple จากนั้นเดินตามถนน Che Kung Miu ประมาณ 10 นาที
14.00 – 15.00 PM : Check-in ที่โรงแรม Hotel อาบน้ำพักผ่อนสักนิดก่อนออกเที่ยวเล่นต่อ
15.30 – 17.00 PM : ได้เวลาออกไป Shopping แล้วที่ Sneaker Street
การเดินทาง : Mong kok Exit D3 เป็นย่านที่รวบรวม Sneaker หลายๆ รุ่นที่ประเทศไทยไม่มี
18.30 – 19.00 PM : Shopping Art Toy ที่ POPMART สาขา K11 Art mall
20.00 – 21.30 PM : Hilight แวะดูการแสดงแสงสีที่ Avenue of star ย่าน Tsim Sha Tsui (Ocean Terminal Deck)
การเดินทาง : Tsim Sha Tsui station, Exit L6 (แสดงไฟช่วง 2 ทุ่ม)
21.30 – 22.30 PM : รับประทานอาหารค่ำที่ย่าน Tsim Sha Tsui
ร้านนี้ไม่ควรพลาด ซาลาเปาทอด ร้านมิชลิน Cheung Hing Kee และ Shopping
การเดินทาง : Tsim Sha Tsui ทางออก A1
Day 2 : ปล่อยตัว ปล่อยใจทั้งวันไปกับ Disney Land
Credit : ขอบคุณภาพประกอบเนื้อหาจากเพจกลุ่มคนชอบเที่ยวฮ่องกง
8.00 AM – 21.00 PM : เดินทางไป Disneyland
ใครที่ได้มาที่นี่ห้ามพลาดเลยเครื่องเล่นโซนใหม่คือ อาณาจักร เอเรนเดล จากการ์ตูนเรื่อง Frozen จะมีให้เลือกเล่น 2 เครื่องเล่นด้วยกันอย่าง
- Wandering Oaken’s Sliding sleighs รถไฟเหาะ ธีม Frozen
- Frozen Ever After รถไฟในอุโมงค์ที่จะพาเราออกไปผจญภัยในเมืองเอเรนเดลล์
ใครที่ได้เข้าไปเล่นแล้วบอกเลยว่ามีแต่ความน่ารักเต็มไปหมด และช่วงค่ำสิ่งนึงที่ไม่ควรพลาดเลยเมื่อได้มาที่นี่นั่นคือ การชมโชว์พุ ในช่วงเวลา 20.00น. บอกเลยว่าทั้งแสง สี และเสียงคือปัง อลังการมากไม่อยากให้พลาดเลยจริงๆ
สำหรับใครที่มาครั้งแรกแนะนำให้เตรียมตัววิ่งให้พร้อม เพราะที่นี่ทุกอย่างต้องไว (ฮ่าๆ) หากต้องการเข้า Disney Land แนะนำว่าให้ซื้อบัตรใน Application Klook เพื่อความสะดวกและเช็ควันให้ดี เพราะการเลือกวันมีผลกับระยะเวลาการเล่นเครื่องเล่น เนื่องจากมีหลายประเภทให้เลือกถึง 4 Tier แต่ละ Tier ราคาก็จะแตกต่างกันไป
- Tier 1 : Regular day : บัตรสำหรับวันเข้าธรรมดา
- Tier 2 : Peak day : บัตรสำหรับเข้าในวันท่องเที่ยวที่มีคนเยอะ
- Tier 3 : Peak Plus day : บัตรสำหรับเข้าวันท่องเที่ยวที่มีคนเยอะเป็นพิเศษ
- Tier 4 : Seasonal day บัตรสำหรับวันเทศกาลต่างๆ ที่ขาดการมาแล้วว่าคนค่อนข้างเยอะมากๆ
การเดินทาง : สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟ MTR สายสีชมพูโดยขึ้นที่สถานี Sunny Bay และลงที่สถานี Disney land ได้เลย
ใครที่สะดวกวันไหนก็อย่าลืมเช็ควันกันให้ดีนะ อาจจะไปตรงกับวันที่ปิดจะเสียเที่ยวแย่เลย ส่วนเรื่องการนำอาหารเข้าไปรับประทาน สามารถนำเข้าไปได้ แนะนำว่าควรเป็นอาหารที่แห้งไม่มีกลิ่นเช่น ข้าวปั้นญี่ปุ่น ขนมปัง น้ำเปล่า เป็นต้น หากไม่สะดวกก็สามารถซื้ออาหารด้านในรับประทานได้เช่นกัน แต่ราคาก็แอบแรงเอาเรื่องเลย
Day 3 : วันสุดท้ายก่อนบินกลับ
Credit : ขอบคุณภาพประกอบเนื้อหาจากเพจกลุ่มคนชอบเที่ยวฮ่องกง
08.00 – 09.00 AM : รับประทานอาหารเช้าที่ Australia Dairy Companyการเดินทาง : MTR Jordan Exit C2
10.30 – 11.00 AM : แวะต่อคิวซื้อทาร์ตไข่ชื่อดัง Bakehouse สาขา Central
การเดินทาง : MTR Central (Google Map)
11.00 – 12.00 PM : เดินเล่นถ่ายรูปแถวย่าน Central Station Central / Shopping
13.00 – 14.00 PM : รับประทานอาหารเที่ยง Dragon State (ร้านข้าวหมูแดง, หมูกรอบ รสเด็ด)
การเดินทาง: Sheung wan Exit A2
14.00 – 15.00 PM : ถ่ายรูปชิคชิคกันต่อก่อนกลับที่ย่าน Moon st.& Sun st.
การเดินทาง : Wan Chai station
20.00 PM : Check – in Airport กลับบ้านได้
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่เราได้รวบรวมมา ต้องบอกเลยว่าในเกาะฮ่องกงยังมีร้านอาหารเด็ดๆ ย่านสวยๆ อีกหลายที่เลย หากเพื่อนๆ สนใจก็ลองมาตามรอยกันได้นะคะ
จบทริปเที่ยว Hongkong 3 วัน 2 คืน หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ประโยชน์จากข้อมูลที่เราได้รวบรวมไว้ให้ และขอให้เดินทางปลอดภัยเที่ยว
ช่วงนี้ใครมีแพลนเดินทางก็อย่าลืมเช็คสภาพอากาศกันด้วยน้า เพื่อความปลอดภัย ท่องเที่ยวกันอย่างสนุกค่า